หากพูดถึง พญานาค เชื่อว่าทุกท่านคงคุ้นเคยและได้ยินเรื่องราวตำนานพญานาคกันมาบ้างแล้ว เพราะในปัจจุบันยังคงมีการเล่าขาน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านละคร ภาพยนตร์ และข่าวเกี่ยวกับการพบเจอพญานาคอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้เรามักจะได้เห็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับพญานาคในงาน จิตรกรรม ประติมากรรม และหัตถกรรมของไทย โดยเฉพาะภาพวาดตามอาคารวัดต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ตำนานพญานาคกับพระพุทธศาสนา ซึ่งพญานาคและศาสนา รวมถึงความเชื่อของคนไทยนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร วันนี้เรามาไขข้อข้องใจไปพร้อมกัน
ลักษณะของพญานาค
ตามตำนานเชื่อว่าลักษณะของ พญานาค หรือ นาค เป็นงูใหญ่ ที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามภูมิภาค โดยทั่วไปจะมีหงอนสีทอง มีตาสีแดง มีเกล็ดเหมือนปลา จะมีหลายสีตามแต่ตระกูลหรือบารมีของนาคนั้นๆ ที่สำคัญคือ ถ้าเป็นนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ถ้าตระกูลสูงขึ้นไปก็จะมีตั้งแต่สามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียร และเก้าเศียร เป็นต้น โดยนาคจะแบ่งได้ ๔ ตระกูลใหญ่ ดังนี้ ๑.ตระกูลวิรูปักษ์ เป็นนาคผิวกายสีทอง ๒.ตระกูลเอราปักถะ เป็นนาคผิวกายสีเขียว ๓.ตระกูลฉัพยาปุตตะ เป็นนาคผิวกายสีรุ้ง ๔.ตระกูลกัณหาโคตรมะ เป็นนาคผิวกายสีดำ อาศัยอยู่ในเมืองบาดาลและสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในนำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ซึ่งตามความเชื่อ พญานาค คือสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา
ตำนานพญานาค
แม้จะเป็นเรื่องที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า “นาค” หรือ “พญานาค” นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ แต่เรื่องราวตำนานของพญานาคก็ได้ปรากฏในเห็นอยู่ในประวัติศาสตร์หลายประเทศทั่วโลก บางแห่งถือว่า พญานาคเป็นสัตว์ในนิยาย บางแห่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ บางแห่งถือเป็นเทพเจ้า แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของโลก ตำนานพญานาคมักจะมีความลึกลับ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือเรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์มาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ สำหรับตำนานพญานาคนั้นมีค่อนข้างหลากหลาย ว่ากันว่าพญานาคมีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดียใต้ เนื่องจากภูมิประเทศเป็นป่าเขามีงูชุกชุม และด้วยเหตุที่งูนั้นมีพิษร้ายแรงชาวอินเดียจึงนับถืองู สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีเรื่องเล่าขานอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศเรา และประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีความเชื่อว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงหรือในเมืองบาดาล อีกทั้งยังมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษา โดยมีลักษณะคล้ายรอยงูใหญ่
พญานาคกับพระพุทธศาสนา
ในตำนานพุทธประวัติก็มีการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคไว้หลายตอน เช่น กล่าวถึงพญามุจลินทร์ที่ได้ขนดตัวเป็นฐาน และแผ่พังพานเพื่อบังลมฝนให้พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่พระองค์ตรัสรู้ และทรงเสวยวิมุติสุขอยู่ใต้ต้นจิก (และเป็นที่มาของพระพุทธรูปปางนาคปรก) ส่วนตำนานบั้งไฟพญานาค ก็มีที่มาว่า เมื่อพระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจำพรรษาอยู่นาน ๓ เดือน พญานาคในลำน้ำโขงก็ได้ออกมาแสดงความยินดี โดยมนุษย์มองเห็นเป็นดวงไฟที่ผุดขึ้นกลางแม่น้ำโขง ซึ่งจะเห็นได้ชัดในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือวันออกพรรษานั่นเอง
พญานาคกับความเชื่อของคนไทย
สำหรับความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับพญานาคนั้นมีมาอย่างยาวนาน เราจะเห็นได้จากวัฒนธรรมประเพณีและงานศิลปะมากมาย ทั้งในด้านวรรณกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม เป็นต้น ตัวอย่างเช่น “บันไดนาค” ที่เรามักจะเห็นจนคุ้นตาตามทางขึ้นวัดวาอารามต่าง ๆ โดยคัมภีร์ทางพุทธศาสนาจะกล่าวถึงพญานาคว่ามักจะแปลงกายเป็นมนุษย์เข้ามาฟังธรรมของพระพุทธองค์อยู่เสมอ ดังนั้น พญานาคจึงเป็นตัวแทนของผู้ใฝ่รู้ ผู้พร้อมจะขจัดความเป็นอวิชชา การสร้างบันไดนาคให้เดินขึ้นไปจึงเสมือนท่านเป็นผู้นำเราไปสู่ความพร้อมที่จะเข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอน ส่วนการ “บวชนาค” นั้น เล่ากันว่าสมัยพุทธกาล มีนาคแปลงกายไปบวช ครั้นหลับร่างจึงกลับสู่ร่างเดิมทำให้พระทั้งหลายตกใจกลัว พระพุทธองค์จึงให้ลาสิกขา เพราะนาคเป็นเดรัจฉาน ยังไม่สามารถบรรลุธรรมได้ นาคได้ยินดังนั้นก็เสียใจ จึงร้องขอต่อพระพุทธเจ้าว่า ต่อไปภายหน้าแม้นาคจะบวชไม่ได้ แต่ขอให้ผู้ที่เตรียมตัวจะบวช มีชื่อเรียกว่า “นาค” ด้วยเหตุนี้จึงมีพิธี ทำขวัญนาค แห่นาค และบวชนาค ต่อมาภายหลัง และทำให้ต้องมีการ “ขานนาค” ที่พระคู่สวด ต้องถามบุคคลที่จะขอบวชพระเป็นภาษาบาลีว่า “มนุสฺโสสิ” ที่แปลว่า เป็นคนหรือเปล่า อันเป็นส่วนหนึ่งของการบวชพระในสังคมสืบต่อมาจนถึงไทยปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า “นาค” เป็น เทพแห่งน้ำ เพราะนาคเป็นสัญลักษณ์ของน้ำ มีฤทธิ์บันดาลให้ฝนตกหรือไม่ตกก็ได้ เราจึงมีคำทำนายเรื่องนาคให้น้ำในแต่ละปีนั่นเอง
และจากความเชื่อเหล่านี้เองได้เกิดเป็นความเลื่อมใสศรัทธาในพญานาค ชาวพุทธหลายคนจึงนิยมบูชา พญานาค เพื่อกราบไหว้ สักการบูชา ขอพร เสริมโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ เสริมความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนและผู้บูชา และหากท่านต้องการบูชาพญานาค ไว้ติดบ้าน ไว้ที่สำนักงาน หรือพกพาติดตัว ทางเว็บไซต์ของเรามีให้เลือกบูชาหลายแบบหลายขนาด ที่สำคัญเป็นของแท้ โดยผ่านการทำพิธีที่ถูกต้องทุกองค์ หรือหากท่านมีข้อสงสัยอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถปรึกษาได้ฟรีโดยทีมงานผู้ชำนาญการ แอดไลน์ @Amulet24