ที่มาของวันตรุษจีน หรือ ปีใหม่จีน
ตรุษจีน เป็นเทศกาลวันปีใหม่ของชาวจีน ตรงกับวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เป็นประเพณีที่ยึดถือกันมานานกว่า 4,000 ปี ซึ่งในอดีตมีชื่อเรียกต่างกันไปตามยุคสมัย แต่ที่รู้จักกันมากที่สุดคือวันชุงเจ๋ จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ จัดกันนานถึง 15 วัน เนื่องจากแต่ก่อนนั้นช่วงเวลานี้ของประเทศจีนจะปกคลุมไปด้วยหิมะ ไม่สามารถทำการเกษตรได้ เมื่อเข้าถึงฤดูใบไม้ผลิ จึงจะสามารถเพาะปลูกได้ตามปกติ ชาวจีนจึงกำหนดให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิตในแต่ละปีเป็นวันสำคัญที่เรียกว่า “ตรุษจีน”
วันตรุษจีนปี 2567 ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 สำหรับคนจีนหรือคนที่มีเชื้อสายจีนให้ความสำคัญกับวันนี้อย่างมาก โดยจะถือประเพณีปฏิบัติที่สำคัญอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว โดยตามประเพณีแล้วมีข้อห้ามและข้อปฏิบัติเพื่อเป็นสิริมงคล
ตรุษจีน 2024 วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ทำอะไรบ้าง?
วันจ่าย ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
วันจ่าย คือ วันก่อนวันสิ้นปีก่อนถึงตรุษจีน เป็นวันที่คนจีนและคนที่มีเชื้อสายจีนจะออกไปจับจ่าย ซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อนำมาทำพิธีไหว้ตามประเพณี ก่อนที่ร้านค้าจะปิดหยุดพักผ่อนยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันไหว้ หรือ วันไหว้เจ้า ตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
- ตอนเช้ามืด จะเริ่มพิธีการไหว้ ป้ายเล่าเอี๊ย โดยเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ มีเครื่องประกอบการไหว้ คือ เนื้อสัตว์สามอย่าง ได้แก่ หมู เป็ด และไก่ อาจจะเพิ่มตับ และปลาก็จะเป็นเนื้อสัตว์ห้าอย่าง ร่วมกับเหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง
- ตอนสาย จะทำพิธีการไหว้ ป้ายแป๋บ้อ หรือการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเป็นการแสดงความกตัญญูตามความเชื่อและคติของจีน ซึ่งใช้เวลาไม่เกินเที่ยง โดยมีเครื่องประกอบการไหว้ คือ ซาแซ อาหารคาวหวาน รวมทั้งมีการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่อเป็นการอุทิศแด่ผู้ล่วงลับ จากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเพื่อความเป็นสิริมงคล ปิดท้ายด้วยการแลกอั่งเปาเป็นขวัญถุงให้กับเด็กๆ
- ตอนบ่าย จะทำพิธีการไหว้ ป้ายฮ่อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องประกอบการไหว้จะเป็นจำพวก ขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย เสริมสร้างความเป็นสิริมงคล
วันเที่ยว หรือ วันตรุษจีน ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567
วันเที่ยว หรือวันถือ เป็นวันขึ้นปีใหม่ โดยเป็นวันที่หนึ่ง เดือนที่หนึ่งของปี ในวันนี้เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นวันที่มีสิริมงคล ให้งดสิ่งไม่ดี สิ่งที่ไม่มงคล อาทิ งดการพูดจาที่ไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส ออกเยี่ยมอวยพรผู้ใหญ่และท่องเที่ยวพักผ่อนนอกบ้าน
11 ข้อห้ามไม่ควรทำในวันตรุษจีน
- ห้ามสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า “ผม” ในภาษาจีนพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า “มั่งคั่ง” ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป
- ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี
- ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์ ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ
- ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
- ห้ามใส่ชุดขาวดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี
- ห้ามให้ยืมเงิน คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี
- ห้ามทำของแตก เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า “luo di ka hua” ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
- ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น “สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี”
- ห้ามร้องไห้ คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี
- ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย
- ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย
9 ข้อปฏิบัติทำแล้วเสริมมงคลในวันตรุษจีน
- ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า “วันซาจั๊บ” โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย
- รวมญาติกินเกี๊ยว ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ “วันชิวอิก” (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น “เกี๊ยว” ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ “เงิน” ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง
- กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
- ทำพิธีรับ “ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ” เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ
- ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่ โดยคำอวยพรที่นิยมเขียน คือ “ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง” จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า “ชุก ยิบ เผ่ง อัง” ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า “หนี่อ่วย” ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน
- ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่ ซึ่งการเลือกเสื้อผ้าสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ “สีแดง” หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง
- มอบส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล
- ให้อั่งเปา ญาติผู้ใหญ่มักนิยมให้ให้ซองแดงใส่เงินขวัญถุงกับเด็ก ๆ หรือลูกหลาน เพื่อเป็นการอวยพรให้โชคดีตลอดทั้งปี
- ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิตตลอดปี
อย่างไรก็ตาม ตรุษจีนปีนี้ “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ขอให้ทุกท่านมีความสุขสมหวังทุกประการ ร่ำรวยมั่งคั่ง ตลอดปี 2567 และสำหรับท่านใดที่กำลังมองหาของขวัญวันตรุษจีน ซองอั่งเปา ของไหว้มงคล เสื้อแฟชั่นตรุษจีนสวยๆ สามารถเลือกช้อปสินค้าตรุษจีน ราคาถูก โปรโมชั่นดีดี พร้อมดีลเด็ด ช้อปออนไลน์กันได้ที่ ALL Online