โรคหัดแมวอันตรายไหม มีวิธีป้องกันยังไง?
สัตว์เลี้ยงตัวโปรดถือได้ว่าเป็นเพื่อนคู่ใจ เพื่อนคลายเหงา ทั้งยังฝึกความรับผิดชอบของคนเลี้ยงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งการมีสัตว์เลี้ยงนั้นนอกจากคุณจะต้องให้ข้าว ให้น้ำ และให้ความรักเป็นประจำแล้ว คุณจำเป็นจะต้องใส่ใจอาการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเพื่อนรักของคุณ
ซึ่งสัตว์เลี้ยงทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสุนัข นก แมว ปลา หรืออื่น ๆ ก็ล้วนแล้วแต่เสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยได้ทั้งสิ้น ดังนั้นคนเลี้ยงจะต้องหมั่นสังเกตอาการของพวกเขา หากเกิดความผิดปกติใด ๆ ควรรีบนำไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูอาการทันที และวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘โรคหัดแมว’ โรคอันตรายของแมวที่เจ้าของห้ามมองข้ามเด็ดขาด
โรคหัดแมวคืออะไร ?
โรคหัดแมวมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรคลำไส้อักเสบติดต่อในแมว ถือเป็นโรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตของแมวทั่วโลกเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปี นอกจากนี้ยังเป็นโรคที่สามารถพบได้กับแมวในทุกตระกูล ทั้งในส่วนของแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงไปจนถึง เสือ สิงโต และแมวป่าเลยล่ะค่ะ
โดยโรคนี้จะทำให้แมวมีอาการคล้าย ๆ กับการเป็นหวัดควบคู่ไปกับอาการท้องเสีย ส่วนใหญ่มักพบในแมวเด็ก และแมวที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งหากแมวอยู่ในอาการรุนแรงและเข้ารับการรักษาไม่ทัน ก็อาจส่งผลถึงชีวิตของแมวได้ แต่โรคนี้เป็นโรคที่ติดต่อแค่กับแมวสู่แมวเท่านั้น ไม่ได้มีผลอันตรายใด ๆ กับคนเลี้ยง
[advanced_iframe iframe_hide_elements=”header,footer,#filterWrapper,.bread” src=”https://www.allonline.7eleven.co.th/home-garden/pet/cat/?show=all&filter.from_PRICE=100&filter.to_PRICE=100&sortBy=si&filter.initial_from_PRICE=56&filter.initial_to_PRICE=3999&view=6/&utm_source=blog&utm_medium=iframe” change_iframe_links=”a” change_iframe_links_target=”_blank”]อาการของโรคไข้หัดแมว
สำหรับโรคนี้จะมีระยะเวลาในการฟักตัวอยู่ที่ประมาณ 2 – 7 วัน แมวจะมีอาการไข้สูงแบบเฉียบพลัน ซึม เบื่ออาหาร ท้องเสีย อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือดมีกลิ่นคาว และเมื่อร่างกายขาดน้ำก็จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียอย่างหนัก จึงส่งผลให้แมวมีอัตราการตายสูงเมื่อป่วยเป็นโรคนี้
โดยอาการป่วยมักมีสาเหตุมาจากการติดต่อโดยตรงกับแมวป่วย ผ่านทางภาชนะใส่อาหาร น้ำ กรง กระบะทรายหรือที่ขับถ่ายของแมว รวมไปถึงพื้นผิวอื่น ๆ อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า พื้นบ้าน ฯลฯ ที่มีเชื้อไวรัส ก็สามารถทำให้แมวติดต่อโรคนี้ได้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการแพร่กระจายของโรคนี้มักเกิดขึ้นกับบ้านที่เลี้ยงแมวด้วยกันหลายตัว
วิธีรักษาและวิธีป้องกันโรคหัดแมว
ในปัจจุบันหากแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้สัตวแพทย์จะให้การรักษาตามอาการและพยุงอาการเพื่อให้แมวสามารถสร้างภูมิคุ้มกันของโรคได้เอง จะมีการให้สารอาหารและน้ำผ่านทางหลอดเลือด (Fluid Therapy) พร้อมกับให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน นอกจากนี้ยังมีการรักษาทางเลือกที่เป็นยากลุ่ม Interferon ที่ช่วยเพิ่มอัตราการรอดสำหรับแมวที่แสดงอาการป่วยได้มากถึง 10-20% แต่สำหรับแมวที่ยังไม่แสดงอาการจะมีอัตรารอดมากถึง 80-90% แต่ข้อเสียคือ Interferon จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงนั่นเองค่ะ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้แมวที่บ้านติดเชื้อไวรัส คุณจะต้องปฏิบัติตามวิธีการป้องกัน ดังนี้
- ฉีดวัคซีนให้กับแมวเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
- ต้องฉีดวัคซีนซ้ำทุก ๆ 2 – 3 สัปดาห์ จนกว่าแมวจะมีอายุครบ 16 สัปดาห์ และต้องฉีดเป็นประจำทุก 1 – 3 ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นวัคซีน
- ผู้เลี้ยงไม่ควรสัมผัสกับแมวป่วยนอกบ้าน เพราะอาจจะนำเชื้อมาสู่แมวเลี้ยงในบ้านได้
- ไม่ควรปล่อยแมวให้วิ่งเล่นนอกบ้าน เพราะอาจเสี่ยงต่อการสัมผัสกับเชื้อไวรัส
- หากรับแมวตัวใหม่เข้ามาเลี้ยง ควรเลี้ยงแยกกันประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อสังเกตอาการว่าแมวตัวใหม่ได้นำโรคมาด้วยหรือไม่
นอกจากนี้คนเลี้ยงจะต้องเลือกซื้ออาหารที่มีประโยชน์ พร้อมของใช้ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ เพื่อให้แมวของคุณห่างไกลจากโรคอันตรายด้วยเช่นกัน ซึ่งหากใครที่สนใจอาหารแมว ทรายแมว หรือของเล่นแมวคุณภาพดีราคาประหยัด สามารถสั่งซื้อได้ที่หน้าเว็บไซต์ ShopAt24.com พร้อมรับโปรโมชั่นดี ๆ อย่างโปรจัดส่งฟรี ที่ 7-11 ใกล้บ้านไปได้เลยค่ะ
อ่านเพิ่มเติม :