“ปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง” อีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าสามัญประจำบ้าน ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อไฟฟ้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกบ้าน เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ โน้ตบุ๊ก ปลั๊กชาร์จ รวมไป ถึงเราต์เตอร์ เป็นต้น โดยการเลือกซื้อปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง ให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้น มีปัจจัยในการเลือกหลายอย่างทั้งเรื่องของคุณภาพ ราคา วัสดุที่ใช้ผลิต มาตรฐานการรับรองต่างๆ รวมถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ปัจจุบันมีปลั๊กไฟมีให้เลือกหลายประเภท หลายยี่ห้อ ทำให้หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบถึงความแตกต่างของปลั๊กไฟชนิดต่างๆ จึงทำให้เกิดการสับสนในการเลือกซื้อได้ วันนี้จึงขอแนะนำวิธีการเลือกปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง ให้เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
1. สายไฟที่ดีควรมีเครื่องหมาย มอก.
สำหรับการเลือกปลั๊กพ่วงที่มีสายไฟ ควรเลือกสายไฟที่มีเครื่องหมาย มอก. หรือผ่านมาตรฐานของ IEC ซึ่งมีสายไฟภายใน 3 เส้นและมีฉนวนหุ้มทั้งสองชั้น เพื่อความแข็งแรงของสายไฟ ป้องกันการหักงอหรือถูกของมีคมทำให้สายไฟชำรุด มีความยาวที่เหมาะสมกับการใช้งาน และควรมีขนาดสายไฟไม่ต่ำกว่า 0.824 ตารางมิลลิเมตร หรือสายเบอร์ 18 (AWG) เพื่อรองรับโหลดกระแสไฟได้สูง หากต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างในเวลาเดียวกัน โดยสายไฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จะสามารถรองรับกระแสไฟได้ดีกว่า
2. เต้าเสียบ ควรเลือกหัวปลั๊กขากลมตามมาตรฐาน มอก.
เต้าเสียบหรือหัวปลั๊กตัวผู้ คือตัวรับกระแสไฟฟ้าไปสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้งานได้ โดยทั่วไปจะมีแบบ 2 ขา และ 3 ขา ซึ่งปกติจะติดมากับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด แนะนำให้เลือกปลั๊กขากลมแทนขาแบน เพราะเป็นมาตรฐาน มอก. ของประเทศไทย และมีฉนวนหุ้มที่โคนขาปลั๊กทั้งสองขา เพื่อป้องกันไม่ให้นิ้วสัมผัสขาปลั๊กที่มีไฟ
3. เต้ารับที่ดีควรทำจากทองเหลืองหรือทองแดง
เต้ารับหรือปลั๊กตัวเมีย ปกติจะติดตั้งอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง เช่นตามกำแพง เพดาน หรือจุดที่จำเป็นต้องการใช้ไฟฟ้า โดยขาเต้ารับซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผงวงจรภายในควรเลือกที่ทำจากทองเหลืองหรือทองแดง เพราะนำไฟฟ้าได้ดีกว่าเหล็กชุบสี หรือโลหะอื่น ๆ ซึ่งเมื่อใช้ไปไม่นานขาเสียบมักจะหลวม จนอาจเกิดการอาร์คขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ปลั๊กพ่วงไหม้ได้ ส่วนบ้านที่มีเด็กเล็ก ควรใช้เต้ารับแบบมีม่านนิรภัย (Safety Shutter) เพื่อป้องกันเด็กเอานิ้วมือแหย่รูปลั๊กพ่วงขณะใช้งาน และที่สำคัญเต้ารับทุกเต้าจะต้องต่อสายดินจริง เพื่อป้องกันอันตรายจากการเกิดไฟรั่วหรือไฟฟ้าช็อต
4. รางปลั๊กพ่วงควรทำจากวัสดุคุณภาพสูงทนความร้อนได้ดี
รางปลั๊กพ่วงอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกให้ดีเนื่องจากเป็นสิ่งที่ครอบปลั๊กไฟไว้ วิธีการเลือกรางปลั๊กพ่วงควรทำจากวัสดุคุณภาพสูง มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ เช่น พลาสติก ABS, AVC หรือ PC ซึ่งทนความร้อน และแรงกระแทกได้ดีกว่าพลาสติก PVC ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้กรณีเกิดความร้อนสูง
5. ปลั๊กพ่วงควรบอกมีพิกัดไฟสูงสุดที่ 220V 2500W 10A
ปลั๊กพ่วงที่ดีต้องบอกพิกัดไฟสูงสุดที่สามารถรองรับได้ เช่น 220V 2500W 10A หมายความว่า แรงดันไฟฟ้าของประเทศไทยกำหนดให้ใช้งานระหว่าง 220 – 250 โวล์ต ใช้กำลังไฟสูงสุดไม่เกิน 2500 วัตต์ และทนกระแสไฟได้สูงสุด 10 แอมแปร์
Toshino รางปลั๊ก 4 ช่อง สายยาว 3 เมตร
6. มีระบบฟิวส์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ช่วยตัดกระแสไฟฟ้าเกิน
ระบบฟิวส์หรือเซอร์กิจเบรกเกอร์ จะช่วยตัดกระแสไฟฟ้าหากใช้ไฟเกินกำหนด เมื่อมีการใช้กระแสไฟฟ้าสูงเกินกว่าที่สายไฟฟ้าจะทนได้จนเกิดความร้อนสะสมขึ้นอาจทำความเสียหายต่อสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า ตัวระบบเซอร์กิตเบรกเกอร์จะทำการตัดกระแสไฟฟ้าออกจากระบบโดยอัตโนมัติ หรือฟิวส์จะขาดเพื่อตัดกระแสไฟทันที
ข้อแนะนำในการใช้ปลั๊กพ่วง ปลั๊กพ่วงที่ได้มาตรฐานควรมีสวิตช์ เปิด-ปิด เพื่อป้องกันไฟกระชากจากการถอดปลั๊กเต้าเสียบ พร้อมทั้งมีไฟแสดงสถานะการทำงาน
โดยสรุปการเลือกปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง ควรเลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งาน และควรผ่านมาตรฐาน มอก. มีพิกัดไฟสูงสุดที่ 220V 2500W 10A และมีระบบฟิวส์ หรือ เซอร์กิจเบรกเกอร์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน สามารถเลือกช้อปปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง ในราคาถูก โปรโมชั่นดีดี พร้อมดีลเด็ด ช้อปออนไลน์กันได้ที่ ALL Online ห้างใกล้บ้าน
ที่มา: รู้ก่อนซื้อ! มอก.ใหม่ ควบคุมปลั๊กพ่วง หมดห่วงเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร
ปลั๊กไฟ มอก. 2432-2555 เหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน (ภาคตรวจสอบภายนอก)