ท่านพ่อลี วัดอโศการาม

232

หลวงพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม เป็นศิษย์สายวิปัสสนากัมมัฏฐานอันดับต้นของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า ริเริ่มและสร้างวัดอโศการาม จนเจริญรุ่งเรืองและมีชื่อเสียงมาจวบถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนทั่วไป แม้แต่จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมาฝากตัวเป็นศิษย์ ชาติภูมิ เป็นชาวบ้านหนองสองห้อง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เกิดเมื่อ วันที่ 31 ม.ค. 2449

เมื่อตอนวัยเด็ก ค่อนข้างจะเป็นเด็กที่เลี้ยงยาก งอแง และขี้โรค อายุ 12 ปี ท่าน จึงเริ่มเรียนหนังสือไทย แต่มีสิ่งหนึ่งในความคิดอยู่ตลอด คือ ความคิดอ่านเรื่องบาปบุญและปรารถนาอย่างยิ่งที่จะบวชเป็น พระภิกษุในภายภาคหน้า จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงอุปสมบทในปี พ.ศ. 2468 สังกัดมหานิกาย

หลวงพ่อลีมีโอกาสพบและฟังเทศน์จาก พระอาจารย์บท ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ทั้งเห็นถึงปฏิปทาและการปฏิบัติสังฆกิจต่าง ๆ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ตัดสินใจออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์บท เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดบูรพา จ.อุบลราชธานี

ท่านได้รับการแนะนำสั่งสอนจากพระอาจารย์มั่นเพียงสั้นๆ ว่า คำว่า พุทโธ นี้ คือความพิเศษ เป็นดวงแก้วแห่งธรรม อันเป็นอุบายเบื้องต้นในการปฏิบัติกัมมัฏฐาน นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาเพิ่มเติม จากพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล ที่บ้านท่าวังหิน อันเป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะแก่การเจริญ กัมมัฏฐาน

หลวงพ่อลีพากเพียรปฏิบัติธรรมและวิปัสสนากัมมัฏฐาน กระทั่งปี พ.ศ. 2471 ท่านจึงได้แปรญัตติจากมหานิกายเป็น “ธรรมยุติกนิกาย” โดยพระอาจารย์มั่นเป็นผู้บรรพชาให้เป็นสามเณร และพระปัญญาพิศาลเถระ (หนู) แห่งวัดสระปทุม เป็นพระอุปัชฌาย์

จากนั้นออกธุดงค์กับพระอาจารย์มั่นเรื่อยมา จนพระอาจารย์ให้ท่านออกธุดงค์โดยลำพัง ท่านจึงออกธุดงค์กัมมัฏฐานไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงเขมร พม่า และอินเดีย จน ในที่สุดมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แม่ชีขาว จ.สมุทรปราการ ณ สถานที่นี้เอง หลวงพ่อลีเริ่มก่อตั้งสำนักสงฆ์ที่เน้นวัตรปฏิบัติในทางธุดงค์ อาจสืบเนื่องจากท่านได้นิมิตว่าเป็นบริเวณที่บรรจุพระบรมธาตุ

การให้ชื่อวัดว่า “วัดอโศการาม” ท่านประสงค์จะให้เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ของอินเดีย ที่ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนามายังแถบเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ได้ก่อสร้างรูปเหมือนพระเจ้าอโศกมหาราช และสร้างเสนาสนะต่าง ๆ จนพัฒนาเป็น วัดอโศการาม ที่รุ่งเรืองเป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน มาจนทุกวันนี้

หลวงพ่อลีนับเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ เป็นพระเกจิ สายกัมมัฏฐานที่เคร่งครัด เข้มขลัง และ ทรงอภิญญา เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาส นิกชนทั่วหล้า สมณศักดิ์สุดท้าย ในปี พ.ศ. 2500 ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระสุทธิธรรมรังสี ท่านมรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2504 สิริอายุ 55 ปี 3 เดือน พรรษา 35