เปิดคุ้มนะหน้าทอง อ.สุบิน ศาสตร์แห่งมนต์ขลังสุดยอดเมตตามหานิยม

283

อาจารย์สุบิน เป็นชาวเหนือโดยกำเนิด บ้านเกิดคือ บ้านป่าไผ่ ตำบลป่าลาน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เด็กชายสุบินเดินทางเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อายุ ๑๓ ปี ได้บรรพชาสามเณรที่วัดศรีประดู่ โดยมี พระครูเขมาพิราม วัดยางทอง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้เข้าศึกษาพระธรรมวินัยตามธรรมเนียมของผู้ที่บรรพชาหรืออุปสมบทเข้ามาในพระพุทธศาสนาสามเณรสุบินได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ได้อบรมสั่งสอนให้ความรู้ จนศึกษาจบนักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดเชตุพน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และศึกษาวิชาสามัญจนจบมัธยมปีที่ ๖      

     เมื่อสามเณรสุบินได้ร่ำเรียนวิชาสามัญจบแต่ละชั้นเเล้วได้หันไปศึกษาด้านพุทธาคม กับครูบาอาจารย์หลายรูป และการศึกษาวัตรปฏิบัติพระกรรมฐาน โดยการศึกษาทางพุทธาคม ได้รับเมตตาจาก พระครูสิริสุภาจารย์(ครูบาอินสม) เจ้าอาวาสวัดศรีประดู่ และวิชาอาคมด้านไสยศาสตร์จากนั้นก็ได้ไปศึกษาวิชาเทียนมหาเศรษฐีพันอย่าง สะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา หนุนดวง กับ ครูบาอิ่นแก้ว อนิญชโณ วัดวาลุการาม (ป่าแงะ) ตำบลตลาดขวัญ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และครูบาอิ่นแก้ว อนิญชโณ ท่านยังได้มีเมตตาสอนวิธีนั่งสมาธิ โดยนั่งตั้งแต่ตี ๕ ยันเที่ยงวัน ซึ่งถือได้ว่า เป็นครูบาอาจารย์ที่สามเณรสุบินได้ปรนนิบัติรับใช้และร่ำเรียนที่ใกล้ชิดมากที่สุดและสามเณรสุบินได้มีโอกาสติดตามครูบาอาจารย์ออก ธุดงควัตรปฏิบัติธรรมไปแถวพม่า ลำปาง เชียงราย ในแถบภาคเหนือ ตามป่าวัดร้าง

     ในช่วงที่ธุดงควัตรอยู่นั้น สามเณรสุบินได้ไปกราบนมัสการครูบาอาจารย์หลายๆรูปและร่ำเรียนวิชามาหลายแขนง หลังจากที่กลับจากธุดงควัตร อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ก็ได้เข้าอุปสมบท ญัตติกรรมเป็นพระภิกษุ โดยมี พระครูรัตนวราธร วัดป่าไม้แดง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ครูบาสุบินได้เดินทางไปจำพรรษา กับ ครูบาหน้อย วัดบ้านปง (มรณภาพอายุ ๑๐๒ ปี)ซึ่งก่อนหน้านี้ ครูบาสุบินได้เป็นเจ้าสำนักสงฆ์ใหม่จันทรวิโรจน์ ตำบลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่อายุ ๑๘ ปี ครั้งบรรพชาเป็นสามเณร      

     ในระยะเวลาที่จำวัดอยู่กับ ครูบาหน้อย วัดบ้านปง ครูบาสุบินก็ได้รับความเมตตาจากครูบาหน้อย ในการสอนการลงอักขระเขี้ยวเสือลงยันต์อาคม ซึ่งตามคำบอกกล่าวของผู้ที่ศรัทธา และครอบครองบูชาเขี้ยวเสืออาคมของครูบาหน้อย ต่างเป็นที่ประจักษ์ว่า ขลังที่สุด ซึ่งท่านทำไว้มากเท่าไรก็ไม่เพียงต่อความต้องการของบรรดาผู้ที่เป็นศิษย์และผู้คนที่ได้เข้าไปกราบไหว้      

     และได้ศึกษาตำหรับวิชา ของ ครูบาเจ้าศรีวิชัย จาก พ่อหนานดวงตา ปัญญาเจริญ ซึ่งท่านเป็นศิษย์เอกของ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ท่านได้เก็บรักษารวบรวมตำราของครูบาเจ้าศรีวิชัยไว้เป็นอย่างดี เช่น ตำราการภาวนากรรมฐาน ที่ท่านเขียนไว้เป็นภาษาล้านนาพร้อมกับการฝึกสมาธิเบื้องต้นและขั้นสูงการเข้านิโรธกรรมตามแบบฉบับครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยพ่อหนานดวงตาท่านมีความเก่งกล้า ทางด้านการลงอักขระเลขยันต์ และนอกจากนี้ท่านยังมอบตำรารวมทั้งยันต์รอยมือและรอยเท้าของครูบาศรีวิชัยมาเป็นสมบัติให้กับครูบาสุบินอีกด้วย

     


     
     อาจารย์ฆราวาส อีกท่านหนึ่งที่ครูบาสุบินได้ร่ำเรียนวิชามาคือ อาจารย์สุวรรณ มณีสีแสง แห่งเมืองเชียงใหม่ ท่านได้พบกับอาจารย์สุวรรณ มณีสีแสง ครั้งเมื่อตอนเป็นสามเณรสุบินที่เชียงใหม่ สำหรับวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดคือ วิชาการสร้างเทียนสะเดาะเคราะห์การสักยันต์เมตตามหานิยม รวมทั้งการสร้างพระผงและการสร้างกุมารทอง และพิธีกรรมสาลิกาคู่ชีวิตดีทางเมตตาค้าขาย ที่ใครๆได้รู้จักตำรับวิชาสายเหนือ และอีกสายคือ เขาอ้อ อาจารย์โยคีเคราเหล็ก ก็ได้ถ่ายทอดวิชาสักสาลิกาที่ริมฝีปากโดยผู้ที่จะทำการสักต้องใช้ใบโพธิ์ ๙ ใบ ธูป ๙ ดอก เทียน ๙ เล่ม หมายถึงความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หน้าที่การงาน เมตตามหาเสน่ห์ นอกนั้น ครูบาสุบินยังได้ศึกษา วิชาอาคมไสยเวทย์ จาก อาจารย์สายบรมครูบูบุอ่อง ชาวพม่า อาจารย์สาธู ชาวกะเหรี่ยงและอีกมากมายหลายครูบาอาจารย์ ซึ่งท่านก็ได้เมตตาสอนความรู้ให้ครูบาสุบินโดยมิได้ปิดบังอำพรางใดๆมี อาคมทางด้านแก้คุณไสย สมุนไพรและพระเวทย์ ฯ การศึกษาตำราและการเล่าเรียนพระปริยัติสายสามัญ ครูบาสุบินจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคณะสงฆ์ ธรรมยุตนิกาย นับได้ว่าครูบาสุบินเป็นแบบอย่างของนักเรียนนักศึกษา ที่มีความมุ่งมานะ และพยายามจนกระทำได้สำเร็จพร้อมเป็นพระสงฆ์ที่น่านำมาเป็นแบบอย่างโดยแท้จริง