ควรล้างเครื่องซักผ้าบ่อยแค่ไหน แก้ปัญหากลิ่นอับ ฆ่าเชื้อโรค

2285

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ใช้อะไรดี

เครื่องซักผ้า ผู้ช่วยกำจัดคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าที่เราสวมใส่รวมถึงผ้าเช็ดตัว ถุงเท้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ช่วยคืนความสะอาด หอมสดชื่น กลับคืนสู่ผ้าให้เราได้ใช้งานอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าคราบสกปรกทั้งหลายนานวันเข้าย่อมเกิดการสะสมอยู่ในเครื่องซักผ้า กลายเป็นต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ บ่อเกิดของเชื้อโรคติดตามเสื้อผ้ากลับมาอีกครั้ง ฉะนั้นแล้วควรหมั่นล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว แถมช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องซักผ้าอีกด้วย

ล้างเครื่องซักผ้าบ่อยแค่ไหน

คำตอบของคำถามนี้ไม่มีอะไรตายตัวขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้เครื่องซักผ้ามากน้อยแค่ไหน หากคุณมีสมาชิกในครอบครัวหลายคนซักผ้าเป็นประจำทุกวันหรือวันเว้นวันแน่นอนว่าย่อมเกิดสิ่งสกปรกตกค้างในเครื่องซักผ้ามากกว่าคนที่ซักผ้าสัปดาห์ละครั้งอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าหลักเกณฑ์ง่าย ๆ ช่วยประกอบการตัดสินใจก็คือว่าซักทุกวันควรล้างเดือนละครั้ง (30 วัน/ครั้ง) ซักทุกสัปดาห์เต็มที่ 3 เดือนครั้ง

[advanced_iframe iframe_hide_elements=”header,footer,#filterWrapper,.bread” src=”https://www.allonline.7eleven.co.th/home-appliances/washers-dryers/washers/?show=all&filter.from_PRICE=5537&filter.to_PRICE=13042&sortBy=si&filter.initial_from_PRICE=899&filter.initial_to_PRICE=13990&view=6/&utm_source=blog&utm_medium=iframe” change_iframe_links=”a” change_iframe_links_target=”_blank”]

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าใช้อะไรได้บ้าง


ล้างเครื่องซักผ้าบ่อยแค่ไหน
ล้างเครื่องซักผ้าแก้ปัญหากลิ่นอับ ฆ่าเชื้อโรค

1. ผงสำหรับล้างเครื่องซักผ้า

ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเฉพาะทางที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทำความสะอาดถังซักผ้าโดยเฉพาะ หาซื้อง่ายตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าออนไลน์ มีลักษณะคล้ายกับผงซักฟอกวิธีใช้คือเทผงล้างถัง 1 ซอง เติมน้ำระดับสูงสุดของถัง ตั้งเมนูล้างถังหรือตั้งซักปกติโดยไม่ต้องใส่ผ้าให้เครื่องทำงานจนหมดรอบซักและปั่น จากนั้นตั้งซักอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าไม่ต้องเติมผงล้างปล่อยให้เครื่องล้างคราบสกปรกจนสะอาดเป็นอันเสร็จ

2. น้ำยาฆ่าเชื้อ

อีกหนึ่งตัวช่วยที่กำจัดคราบสกปรกกฝังแน่นได้เป็นอย่างดี วิธีใช้ก็ง่าย ๆ คล้ายกับผงล้าง คือเทน้ำยาลงถังซักโดยไม่ต้องใส่ผ้า กดปุ่มให้เครื่องทำการซักจนหมดรอบ น้ำยาฆ่าเชื้อจะแทรกซึมเข้าไปยังมุมต่าง ๆ และช่วยขจัดคราบฝังแน่นให้หลุดออกมาโดยง่าย จากนั้นตั้งซักอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าเพื่อล้างคราบสกปรกจนสะอาดเป็นอันเสร็จ

3. เบกกิ้งโซดา

ผงสารพัดประโยชน์ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี วิธีใช้คือเทเบกกิ้งโซดาจำนวน 1 ถ้วยตวงลงในถังซักผ้า (ฝาบน) ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้า (ช่องใส่ผงซักฟอก) จากนั้นเปิดเครื่องให้ซักตามปกติจนเบกกิ้งโซดาละลาย ปิดเครื่องทิ้งไว้หนึ่งคืนเพื่อให้เบกกิ้งโซดาทำปฎิกิริยากับคราบสกปรกฝังแน่น พอผ่านหนึ่งคืนแล้วตั้งโปรแกรมซักผ้าปกติเพื่อล้างคราบออก 1-2 รอบจนสะอาด

4. น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ง่ายต่อการหาซื้อมาใช้งาน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้ได้ผลดีเพียงเตรียมน้ำส้มสายชู 2-3 แก้ว หรือมากกว่านั้น (ขึ้นอยู่กับขนาดถัง) จากนั้นเทลงไปในถังซักที่มีน้ำเต็มถังอยู่ก่อนแล้วจากนั้นเริ่มกระบวนการซักผ้าตามปกติราว 1 นาที จากนั้นหยุดการซักเพื่อให้ทำการแช่ถังซักให้น้ำส้มสายชูได้ออกฤทธิ์ ขจัดคราบ รา และกลิ่นอับประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงเริ่มโปรแกรมซักอีกครั้งเพื่อล้างคราบสกปรกจนหมด

นอกจากถังซักที่ควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันเรื่องการสะสมของเชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว วิธีอย่างเปิดฝาเครื่องซักผ้าหลังใช้งานเพื่อกำจัดความชื้นออกไปให้หมด รวมถึงเช็ดขอบยางเครื่องซักผ้าให้แห้ง รวมถึงหมั่นทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม และการดูแลบอดี้ภายนอกให้แห้ง สะอาด ไม่วางของหนักซ้อนเครื่องซักผ้า ก็ถือเป็นวิธีถนอมเครื่องซักผ้าอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม