คู่มือเลือกซื้อปลั๊กไฟอย่างไรให้ปลอดภัย

99

การเลือกซื้อปลั๊กไฟเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากปลั๊กไฟที่ใช้ไม่เหมาะสมหรือไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากไฟฟ้าได้ ดังนั้น การเลือกปลั๊กไฟที่มีคุณภาพและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ โดย ALL ONLINE มีคำแนะนำและวิธีการเลือกซื้อปลั๊กไฟอย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมใช้งานได้ยาวนาน

1. เลือกปลั๊กไฟที่มีการรับรองมาตรฐาน

สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อปลั๊กไฟคือการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีการรับรองมาตรฐานหรือไม่ เช่น มาตรฐานจาก มอก. หรือ UL ที่รับรองว่าอุปกรณ์ดังกล่าวผ่านการทดสอบคุณภาพและความปลอดภัยจากสถาบันที่เชื่อถือได้ โดยการเลือกปลั๊กไฟที่มีเครื่องหมายรับรองเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์มีความปลอดภัยในการใช้งาน

2. เลือกปลั๊กไฟที่มีระบบป้องกันไฟเกิน

ปลั๊กไฟที่ดีควรมีระบบป้องกันไฟเกินหรือ Overload Protection เพื่อช่วยตัดกระแสไฟเมื่อเกิดการใช้ไฟฟ้ามากเกินไป หรือเกิดการลัดวงจร ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการไหม้หรือไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของปลั๊กไฟให้ยาวนานขึ้น

3. คำนึงถึงวัสดุและคุณภาพของตัวปลั๊ก

วัสดุที่ใช้ในการผลิตปลั๊กไฟก็มีความสำคัญ ปลั๊กไฟที่ทำจากวัสดุคุณภาพต่ำอาจเกิดความร้อนสูงจนทำให้เกิดไฟไหม้หรือเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่าย ดังนั้น ควรเลือกปลั๊กไฟที่ผลิตจากวัสดุพลาสติกเกรดดี ซึ่งทนทานและไม่ติดไฟได้ง่าย นอกจากนี้ ควรเลือกปลั๊กที่มีขั้วต่อที่ทำจากทองแดง หรือวัสดุที่มีความทนทานสูง เพื่อให้การส่งกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปลั๊กไฟ

4. เลือกปลั๊กไฟที่มีจำนวนช่องเสียบเหมาะสม

ปลั๊กไฟที่มีช่องเสียบมากเกินไปอาจทำให้เกิดการใช้งานไฟฟ้ามากเกินไปและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ ดังนั้น ควรเลือกปลั๊กไฟที่มีจำนวนช่องเสียบเหมาะสมกับความต้องการใช้งานของคุณ โดยไม่ควรเสียบอุปกรณ์มากเกินไปในเวลาเดียวกัน ควรตรวจสอบว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบเข้ากับปลั๊กไฟไม่เกินพิกัดที่ปลั๊กไฟนั้นๆ รองรับ

5. เลือกปลั๊กไฟที่มีฟีเจอร์เสริม

ปลั๊กไฟบางรุ่นมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ฟิวส์ตัดวงจร เมื่อกระแสไฟเกินหรือลัดวงจร ปิด/เปิดสวิตช์ เพื่อควบคุมการใช้งาน หรือการป้องกันเด็ก โดยปลั๊กไฟบางรุ่นจะมีฝาปิดช่องเสียบเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กมาแหย่หรือสัมผัสช่องเสียบไฟ นอกจากนี้ ยังมีปลั๊กไฟที่สามารถป้องกันไฟกระชากจากฟ้าผ่า ซึ่งช่วยป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากความเสียหายได้

6. ขนาดและการออกแบบที่เหมาะสม

การเลือกปลั๊กไฟควรพิจารณาถึงขนาดและการออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน ควรเลือกปลั๊กไฟที่มีขนาดกะทัดรัด หากคุณใช้ในบ้านหรือสำนักงานที่มีพื้นที่จำกัด หรือหากต้องการใช้ปลั๊กไฟในที่แคบๆ ควรเลือกปลั๊กไฟที่มีการออกแบบที่ช่วยประหยัดพื้นที่ แต่ยังคงความปลอดภัยไว้ได้

7. ไม่ละเลยคำแนะนำในการใช้งาน

เมื่อเลือกซื้อปลั๊กไฟมาแล้ว ควรใช้งานอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเสียบปลั๊กไฟเกินกำลังที่ระบุไว้บนปลั๊ก และไม่ควรใช้ปลั๊กไฟที่มีการชำรุด หรือเสียหาย เพราะอาจเสี่ยงต่ออันตรายจากไฟฟ้า นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กไฟในที่ที่มีความชื้นหรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

การเลือกปลั๊กไฟที่ปลอดภัยจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากไฟฟ้าและรักษาความปลอดภัยในบ้านหรือสำนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมเลือกปลั๊กคุณภาพดี

ปลั๊กไฟดี มีคุณภาพ ช้อปเลย

BLL ปลั๊กไฟทาวเวอร์ 6 ช่อง 1 สวิตซ์ 3 USB Type C ยาว 3 เมตร รุ่น B33

BLL ปลั๊กไฟทาวเวอร์ 6 ช่อง 1 สวิตซ์ 3 USB Type C
ยาว 3 เมตร รุ่น B33 – ขาว

BLL ปลั๊กไฟ 7 ช่อง 1 สวิตซ์ 2 ช่อง USB 1 Type C รุ่น B31

BLL ปลั๊กไฟ 7 ช่อง 1 สวิตซ์ 2 ช่อง USB 1 Type C รุ่น B31

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกปลั๊กไฟที่ปลอดภัย 

  • สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) – มอก. เป็นหน่วยงานที่รับรองมาตรฐานของสินค้าในประเทศไทย รวมถึงปลั๊กไฟที่ควรได้รับการรับรองจากมาตรฐาน มอก. เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า
  • การไฟฟ้านครหลวง (MEA) – เว็บไซต์ของการไฟฟ้านครหลวงมีข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ปลั๊กไฟอย่างปลอดภัย รวมถึงการเลือกใช้ปลั๊กไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน และการดูแลรักษาปลั๊กไฟให้ปลอดภัย
  • องค์กรด้านความปลอดภัยของไฟฟ้า (NFPA) – National Fire Protection Association (NFPA) ของสหรัฐอเมริกามีคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ปลั๊กไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านให้ปลอดภัยจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากไฟฟ้า