ไฉ่สิ่งเอี้ย หรือ จ่ายสินเอี้ย (จีน: 財神; พินอิน: Cái-shén; อังกฤษ: Cai Shen, God of wealth, God of fortune)
เป็นเทพเจ้าของจีนที่ให้คุณทางด้านเงินทอง และโชคลาภ (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ)
ซึ่งสำหรับชาวจีนแล้วถือเป็นเทพเจ้าที่มีความสำคัญมากที่สุดในการเริ่มเข้าสู่ปีนักษัตรใหม่ (ตรุษจีน)
เนื่องจากเป็นเทพเจ้าที่ได้รับการกราบไหว้เป็นองค์แรกทีเดียว
โดยคำว่า “ไฉ่สิ่ง” หรือ “ไฉซิ้ง” มีความหมายว่า “ทรัพย์สิน” หรือ “สิริมงคล” “เอี้ย” หมายถึง “เทพเจ้า”
โดยเทพที่ได้รับการนับถือว่าเป็นไฉ่ซิ้งเอี้ย มีด้วยกันหลายองค์ แต่องค์ที่ได้รับการบูชามากที่สุด คือ ฟ่านหลี และปี่ กั้น
ซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ โดยถือว่าเป็นไฉ่สิ่งเอี้ยฝ่ายบุ๋น ขณะที่จ้าวกงหมิง และกวนอู ถือเป็นไฉ่สิ่งเอี้ยฝ่ายบู๊
การบูชาไฉ่สิ่งเอี้ย สามารถพบได้ในหลายประเทศในทวีปเอเชีย เช่น
ทิเบต, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย, ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเก๊า, ฮ่องกง
ไฉ่สิ่งเอี้ยที่มีความเก่าแก่ที่สุดพบที่บนหน้าผาในทิเบต เรียกว่าปางชัมภล
เชื่อว่าไฉ่สิ่งเอี้ย จะเสด็จมายังโลกมนุษย์เพียงปีละครั้ง คือ ในวันตรุษจีน ดังนั้น ชาวจีนตั้งแต่โบราณเมื่อเข้าสู่วันตรุษจีน (นับตั้งแต่ 0.00 น.)
จะทำการตั้งโต๊ะบูชาไฉ่สิ่งเอี้ย โดยการหันหน้าไปทิศต่าง ๆ ที่เชื่อว่าไฉ่สิ่งเอี้ยจะเสด็จลงมา ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี
โดยเวลาที่จะทำการบูชา คือ 23.00–01.00 น. ของวันตรุษจีน โดยทำการบูชาที่ดาดฟ้าบ้านหรือหลังคาบ้าน หรือระเบียงบ้านชั้นสองหรือสาม
หรือหน้าบ้านก็ได้ ซึ่งของที่ทำการบูชาใช้ของหวาน เช่น ผลไม้, อาหารเจ, บัวลอย, สาคู หรือของรับประทานต่าง ๆ ที่มีสีสันสดใส
แต่ไม่ใช้ของคาวหรือเนื้อสัตว์ พร้อมกับนำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเงินทอง เช่น สมุดบัญชีธนาคาร, เช็ค หรือกระเป๋าเงิน มาตั้งวางไว้ด้วย
และเมื่อธูปที่ใช้บูชาใกล้มอดให้รีบนำเข้าบ้าน และปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพื่อให้ควันธูปที่เหลือนั้นตลบอบอวลอยู่ภายในบ้าน
เชื่อว่าเป็นการอัญเชิญไฉ่สิ่งเอี้ยเข้ามาประทับในบ้าน
“การไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย” โดยมีความเชื่อว่า “ไฉ่ซิงเอี๊ย”
เป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ของชาวจีน บางคนเรียกว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เทพเจ้าแห่งเทพเจ้าทั้งปวง
โดยที่ไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เนื่องจากเทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ยได่เสร็จมาทางทิศตะวันออก
ของไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย
1. รูปปั้นหรือรูปภาพ องค์เทพไฉ่ซิ้งเอี๊ย (ถ้าไม่มี ให้ไหว้โดยหันหน้าไปทางทิศใต้ ทิศที่เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยเสด็จลงมา)
2. แก้วใส่ข้าวสารหรือกระถางธูป มีกิมฮวยปัก 1 คู่ ติดการดาษแดง หรืออั้งติ๋ว
3. แจกันดอกไม้ 1 คู่
4. เชิงเทียน พร้อมเทียนสีแดง 1 คู่
5. ข้าวสวย 5 ถ้วย
6. น้ำชา 5 ถ้วย
7. ถั่วเขียว 1จาน, ถั่วแดง 1 จาน, ส้ม 8 ลูก
8. เจฉ่าย 5 อย่าง 1 ชุด คือ เห็ดหอม 1 ถ้วย, เห็ดหูหนู 1 ถ้วย, ดอกไม้จีน 1 ถ้วย, วุ้นเส้น 1 ถ้วย, ฟองเต้าหู้ 1 ถ้วย
9. ผลไม้ 5 อย่าง เช่น ส้ม, แอปเปิ้ล, สาลี่, องุ่น, กล้วยหอมสีเขียว
10. สาคูต้มสุกในน้ำเชื่อม หรือ อี๊ 5 ถ้วย
11. ขนมหวาน 3 อย่าง เช่น ขนมเข่ง ฮวดก้วย ขนมชั้น
12. น้ำใส่ยอดทับทิม 5 ยอด 1 ขัน หรือ 1 แก้ว (เพื่อใช้พรมตัวและบ้าน)
13. หนังสืออัญเชิญพร้อมคำอธิษฐานขอพร สีแดง และเขียว
14. ซองอั่งเปา
15. กระดาษทอง (ตั่วกิม) 13 แผ่น และ กระดาษไหว้เจ้า (หงิงเตี่ย) 13 คู่
16. อย่างอื่นเพิ่มเติมได้ตามสะดวก เช่น ชุดเครื่องไหว้
วิธีการไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย
หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จากนั้นจุดธูป 9 ดอก
แล้วบอกบอกชื่อ(แซ่) นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ และที่อยู่ ของผู้ทำการไหว้ขอพร
หรือเขียนรายละเอียดบุคคลที่ขอพรใส่ในกระดาษให้เรียบร้อย
วางเอาไว้ในถาดเครื่องการดาษจะได้ไม่ตกหล่น เมื่อไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยจนธูปหมดไปครึ่งดอก
ให้เอาเครื่องไหว้ที่เป็นกระดาษไปเผา เสร็จแล้วส่วนของไหว้นำกลับเข้าบ้านไปกินเป็นสิริมงคล
บทสวดบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา
(3 จบ 5 จบ 9 จบ 12 จบ หรือ 13 จบ ตามที่สะดวก)
ประวัติความเป็นมาของเทพไฉ่ชิงเอี้ย มี 2 องค์ด้วยกันคือ
1.เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี้ยฝ่ายบุ๋น(ปางประทานโชคลาภ) เรียกว่า “บุงไฉ่ซิงเอี้ย”
2.เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี้ยฝ่ายบู๊ (ปางมหาปราบ) “บูไฉ่ซิงเอี้ย”
โดยทั้งสององค์มีประวัติความเป็นมาดังนี้
ฝ่ายบุ๋น บุงไฉ่ซิงเอี้ย มีชื่อเดิมว่า ปี่กาน มีประวัติความเป็นมา
เป็นอัครเสนาบดีของพระเจ้าจักพรรดิ์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ซาง
ปี่กานเป็นอัครเสนาบดีที่มีความซื่อสัตย์มาก มักจะถวายคำแนะนำตักเตือนให้ฮ่องเต้ที่กำลังลุ่มหลงอิสตรี
ให้สนใจในราชการบ้านเมือง จนทำให้นางสนมกำนัลมีความแค้นเคือง หาทางกลั่นแกล้ง
โดยสมคบคิดกับหมอหลวงในราชสำนัก ทูลฮ่องเต้เพื่อขอหัวใจของปี่กานมาทำยารักษาตน
เจียงไท้กงเทพอาวุโสบนสวรรค์ล่วงรู้เหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้ให้ยาอมตะแก่อัครเสนาบดีปี่กาน
ครั้นเมื่อปี่กานควักหัวใจให้สนมเอก ก็หาได้จบชีวิตอันใดไม่ จนสุดท้ายได้ลาออกจากราชการและเดินออกไปจากพระราชวัง
และแจกจ่ายเงินทองให้กับชาวบ้านจนสิ้นอายุขัยแล้วไปเกิดเป็นเซียนบนสรวงสวรรค์ มีของวิเศษคู่กายคือ ไข่มุกวิเศษ และเงินทอง
ฝ่ายบู๊ บูไฉ่ซิงเอี้ย มีชื่อว่าเจ้ากงหมิง เป็นนักพรตหน้าตาดุดัน บำเพ็ญเพียรยู่บนเขาง้อไบ้จนสำเร็จเป็นเซียนมีอิทธิฤทธิ์
มีเสือโคร่งเป็นบริวาร มีอาวุธวิเศษคู่กาย หลายอย่าง อาทิเช่น แส้เหล็ก ,ไข่มุกวิเศษ , เชือกล่ามมังกร เมื่อเจ้ากงหมิงรู้ว่า
เจียงไท้กงเทพอาวุโสที่อยู่บนสวรรค์มีอำนาจในการแต่งตั้ง “เทพเจ้า” จึงบังคับให้แต่งตั้งตนเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
เจียงไท้กงเพลี่ยงพล้ำสู้เจ้ากงหมิงไม่ได้ เลยกล่าวว่า จะมีเทพเจ้าในตำแหน่งเดียว 2 คนได้อย่างไร ถ้าเจ้ากงหมิงได้หัวใจของปี่กานมาได้
ก็จะสถาปนาให้ เจ้ากงหมิงจึงบัญฯชาให้เสือโคร่งไปควักหัวใจปี่กานมา ปรากฏว่าเมื่อเสือโคร่งกระโจนใส่
และฉีกร่างของปี่กานควานหาหัวใจแต่ไม่พบ แต่ในเวลาต่อมาเจียงไท้กงสำนึกได้ว่าตนหลอกเจ้ากงหมิงเพื่อเอาตัวรอด
ดังนั้นจึงยอมสถาปนาให้เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภในฝ่ายบู้
เทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี้ย เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ และการขอพรทางด้านโชคลาภ
ให้อิทธิคุณอำนาจทางด้านการอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับผู้ที่บูชา
เป็นเทพองค์สำคัญของชาวจีน ที่มีการไหว้ในวันตรุษจีนทุกๆปี โดยเชื่อว่าเทพเจ้าไฉ่ชิงเอี้ยจะเสด็จลงมาปีละครั้งในทิศที่ต่างๆกัน
เพื่อให้โชคลาภ ชาวจีนจึงมักจะตั้งเครื่องไหว้เทพเจ้าเพื่อรับเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่ออำนวยความโชคดี บันดาลทรัพย์สินเงินทอง
โชคลาภค้าขายเจริญรุ่งเรือง นอกจากนั้นชาวจีนยังหารูปเหมือนไฉ่ฉิงเอี้ยมาตั้งไว้บูชาที่บ้าน หรือประจำไว้ห้างร้านบริษัทเพื่อบูชาอีกด้วย